เป็นวิธีที่คิดขึ้นมากเปรียบเทียบกับกีฬาฟุตบอล(ซึ่งเป็นกีฬาโปรดของคุณเด่นศรี)ซึ่งได้แบ่งเป็นกองหลัง
กองกลาง กองหน้าซึ่งแต่ละกองมีหน้าที่ต่างกันไป
3-0-2-8
คืออะไร
เดิมมี 1,000 หุ้น ทิ้งกองหลังไว้ 300
แล้วอาศัย 700
หุ้นที่เหลือ สร้าง 300 ที่ปล่อยไปให้กลับคืนมา(รวมทั้งหมด1,300 หุ้น
)
อาจมองเป็น 10,000 หุ้น ทิ้งกองหลัง 3,000 หุ้น และใช้7,000
หุ้นสร้างหุ้นขึ้นมาอีก 3,000 หุ้นเป็น 10,000 หุ้น(รวมทั้งหมด 13,000 หุ้น)แล้ว
เอามาแบ่งเป็นกองกลาง 2,000 หุ้น กองหน้า 8,000 หุ้น ซึ่งวิธีนี้ต้องระดับ
DSMระดับMaster
ถึงจะทำได้อย่างง่ายดายก็คือคุณเด่นศรีใช้วิธีนี้อยู่
หรือ
เริ่มต้นจากมีหุ้น 1,300 หุ้น แล้วแบ่งกองหลัง 300 หุ้น กองกลาง 200 หุ้น กองหน้า
800 หุ้น หรืออาจเริ่มต้นจากมีหุ้น 13,000 หุ้น จะได้แบ่งเป็นกองหลัง 3,000 หุ้น
กองกลาง 2,000หุ้น กองหน้า 8,000 หุ้น ซึ่งจะสามารถแบ่งขาย กองต่างๆ ได้อย่างละ 10%
ได้ง่าย
หรือ เริ่มจากหุ้น 10,000 หุ้น แบ่งกองหลัง 3,000 หุ้น กองกลาง
1,400 หุ้น และกองหน้า5, 600 หุ้น ถ้ามองเป็น% จะได้ดังต่อไปนี้ หุ้น 100%
แบ่งกองหลัง 30% แล้ว เอาที่เหลือ 70% คิดให้เป็น 100% แล้วจึงนำมาแบ่ง เป็นกองกลาง
20% (14%จากเริ่มต้น) และกองหน้า 80% (56%จากเริ่มต้น) และก่อนทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ทุกรอบ ที่ห่างกองหลังไปอีก 15 ช่อง ถือว่าขึ้นรอบใหม่
หลังจากทราบว่า
3-0-2-8 แบ่งได้เป็นอย่างไรได้แล้วมาดูส่วนต่าง ๆ กองต่างๆทำงานกันอย่างไร
3 คือ
กองหลัง ใช้เล่นทางลงอย่างเดียว ไม่ขึ้นมามาก 4 ช่องจุดต่ำสุด จะไม่ซื้อกลับ
0
คือ ช่วงราคาที่หุ้นอยู่ระหว่างกองหลังทั้ง 3 กอง ซึ่งจะไม่ทำอะไร
เพราะได้ขายเอาไว้แล้ว
2 คือ กองกลาง หุ้นส่วนที่ใช้สำหรับตลาด side way
จะปล่อยทีละนิดหน่อย (1%) โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และปิดตลาดจะต้องซื้อคืน
เพื่อเอาไว้เล่นเกม side wayที่อาจจะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น
ส่วนนี้จะเล่นก็ได้ไม่เล่นก็ได้เช่นกัน
8 คือ กองหน้า หุ้นส่วนที่จะไม่ปล่อยไป
จนกว่าจะเลยช่วง side way(คือประมาณ 15 ช่อง
จากหัวแถวของกองหลังตัวบนสุดที่ขายไป)
นั่นคือ มีทั้งเล่นหุ้นขึ้น เล่นหุ้นลง
และเล่นหุ้นside way
ขยายความส่วนของกองกลางที่อยู่ช่วง side way
อาจสร้างกระแสเงินสดแฝงได้น้อยแต่มีประโยชน์ในแง่ความสบายใจในการที่จะไม่รีบร้อนปล่อยหุ้น
ไม่ว่าจะกำลังขึ้นหรือกำลังลง
ดังนั้น1 % ที่ปล่อยไปเรื่อย ๆ
อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะ เพราะมันทำให้ทุกอย่างอยู่ในแผนที่เราควบคุมได้อย่างสบายใจ
และมันยังสร้างกระแสเงินสดแฝงเป็นค่าเทรดหุ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ
ได้ด้วย
แต่เล่นช่วงกองกลางแล้วขาย 1% ไม่คุ้มค่าคอมมิชั่น ก็อาจ จะขายทีละ 5%,
10% หรือ 20% ได้ ในช่วง 15 ช่องจากกองหลังตัวบนและหาจังหวะรับกลับ
แต่ถ้าไม่สามารถรับกลับได้ก็จะเสียหุ้นไป 20% ภายในช่วง 15 ช่องนี้
ซึ่งเป็นช่วงที่ยอมรับได้ตามแผนที่วางไว้
แต่ถ้าต้องการแบ่งกองต่าง ๆ
ให้ง่ายขึ้น อาจให้สูตร 3-0-2-5 หรือ 3-0-3-4 หรือ 3-0-4-3 ก็ย่อมได้
ให้เลือกเอาว่าจะใช้วิธีไหนตามสะดวก
ตามแต่ที่ถนัดของแต่ละท่านไป
อีกหนึ่งมุมมองของ 3-0-2-8
ในการบริหารพอร์ตหุ้นสามารถเอามาประยุกต์เป็น 3-3/0-2-8
ให้มองว่า 3-0-2-8
เป็นการบริหารพอร์ตทั้งพอร์ตคือ
เมื่อเริ่มต้นการลงทุนในตลาดหุ้นนักลงทุนทุกท่านก็ต้องมีเงินเริ่มต้นในการลงทุน
ให้สมมุติ ว่าลงทุน 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100%
ของทั้งหมดของพอร์ตหุ้นโดยแบ่งตามนี้
3 คือ 30%
ของเงินเริ่มต้นที่ทำงานลงทุน ให้เก็บเอาไว้เป็นเงินสำรองในพอร์ตหุ้น
และเก็บเอาไว้เล่นหุ้นแบบ DSM Double ในที่นี้ก็คือ 30,000 บาท อย่างนี้
และไม่ต้องคิดว่าจะหาเงินที่ไหนมาเล่นหุ้นแบบ DSM Double
เพราะเราได้เตรียมเงินเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนั้นเอง และส่วนที่เหลือ อีก 70%
ของพอร์ตเอามาซื้อหุ้นและแบ่งเป็น 10 ส่วนซึ่งนั้นก็คือ ส่วนละ 10%
นั้นเอง
3/0 คือ กองหลัง ที่ขายลงไปเรื่อยๆ ทุก 2 ช่อง
ขายให้ไปเรื่อยสามารถทิ้งกองหลังได้ 3 กอง
แต่ถ้าหุ้นมีแนวโน้มลงก็ขายจนหมดมือนั้นก็คือ เหลือหุ้นในมือเท่ากับ 0 นั้นเอง
และเวลาหุ้นเริ่มเด้งจากสุดต่ำสุดก็รับหุ้นกลับหมด
2 คือ กองกลาง เล่นช่อง
sideway เอาแบ่ง 20% มาเล่น ช่วงนี้ 15 ช่อง
8 คือ กองหน้า เล่น
ช่องขาขึ้นเต็มตัวที่ขึ้นมามากกว่า15 ช่องจากกองหลังตัวบนสุด
ก็
เป็นแนวคิดในการบริหารพอร์ตอย่างนึ่ง สามารถเล่นหุ้นแบบDSM และ DSM Double
ได้โดยใช้เงินภายในพอร์ตของตนเองโดยไม่ต้องหาเงินมาเพิ่มเติมแต่อย่างใด ถ้าสงสัยว่า
DSM Double คืออะไรให้ติดตามได้ในบทที่ 31 ชื่อบทว่า DSM Double Theory
Thursday, March 29, 2012
DSM Concept Version 3 : DSM (29) - สูตร 3-0-2-8 คืออะไร
Labels:
DenSri Method,
DSM,
DSM Concept,
DSM Concept Version 3,
กลยุทธ์การเล่นหุ้น,
จูล่ง,
เด่นศรี
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment