คุณสมบัติของหุ้นที่จะเลือกลงทุนด้วยวิธี DSM
1. ต้องเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผล
โดยดูจากประวัติย้อนหลังของบริษัทหลาย ๆ ปี
2. ต้องเป็นหุ้นที่มีคนนิยม
และมีจำนวนหุ้นซื้อขายในตลาดมากพอสมควร เพราะเราจะสร้างหุ้นเพิ่มจากส่วนต่างของราคา
จากการแกว่งตัวของราคาจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวนั้นเป็นที่นิยม
ให้ดูมูลค่าการซื้อขายมาก แสดงว่าหุ้นตัวนั้นได้รับความนิยมมาก
3.
ต้องเป็นหุ้นแก่นหลักของเศรษฐกิจของประเทศ
ประเภทว่าถ้าหุ้นตัวนี้แย่หรือล้มหายจากตลาด
หุ้นตัวอื่นๆก็คงโดนฝังหรือออกจากตลาดไปก่อนหน้านี้แล้ว
4.
ต้องเป็นบริษัทที่คุณอยากร่วมเป็นเจ้าของกิจการ
การที่จะหาหุ้นที่มีคุณสมบัติครบทั้ง
4 ประการ สำหรับแต่ละคน อาจจะเป็นเรื่องยาก
คุณจึงต้องยอมตัดคุณสมบัติบางประการออกไปบ้าง เช่น
-
สำหรับคนที่มีเวลาซื้อขายหุ้น อาจจะเลือกหุ้นที่ราคาแกว่งตัวมาก
โดยที่หุ้นนั้นอาจจะจ่ายปันผลไม่ดีนัก
เพื่อที่จะสร้างจำนวนหุ้นให้เพิ่มในอัตราที่มากพอ
เมื่อได้หุ้นมากพอแล้วจึงเปลี่ยนตัวไปยังหุ้นที่หมายตาที่จ่ายเงินปันผลที่ดี
อย่างพวกหุ้น Warrant ต่าง ๆ ต้องมีแผนตั้งแต่เริ่มแรกในการเล่นWarrant ตัวนั้นๆ
เช่นต้องการดึงกระแสเงินสดแฝงออกจาก Warrant ให้เร็วและเน้นสร้างกระแสเงินสดแฝง
ไม่ต้องการเพิ่มหุ้นแต่อย่างใด หรือเล่น Warrant ต้องการเพิ่มหุ้น
และเก็บกระแสเงินสดแฝงตามสัดส่วนที่ได้ เอาไว้แปลงร่างจากหุ้น Warrant
เป็นหุ้นตัวแม่ ตัวอย่างเช่น CPF-W2 ต้องการแปลงเป็น CPF หรือ ZMICO-W3
ต้องการแปลงเป็น ZMICO หรือ STEC-W2 ต้องการแปลงเป็น STEC
แต่มีข้อแม้อีกอย่างนึ่งว่า ตัว Warrant นั้นต้องมีอายุอย่างน้อย 2 ปีก่อนหมดอายุ
แต่ถ้าได้มากกว่า 2 ปี
ยิ่งดีซึ่งจะทำให้เราได้สร้างกระแสเงินสดแฝงได้เป็นจำนวนมากตามอายุที่ยาวนานของ
Warrant ตัวนั้น ๆ คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนหุ้น Warrant
ต้องมีเวลาเอาใจใส่พอร์ตอย่างมาก
- สำหรับคนที่ไม่มีเวลาซื้อขายหุ้น
ถ้าเลือกหุ้นที่มีการแกว่งตัวมากอาจจะกระตุกหัวใจ แบบนี้ควรเลือกหุ้นพื้นฐานดี
จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมาก
คุณเพียงแค่ใช้เวลาดูแลเพียงวันละครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว
5.
ถ้าใครมีประสบการณ์กับหุ้น Finance ตอนที่ปิดบริษัท 56 แห่ง
ก็ควรหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่ม Finance แต่ก็ยังสามารถลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ได้
แต่ต้องมีกฎทางออกเตรียมพร้อมไว้เสมอ
6. เมื่อใดควรไล่หุ้นตัวนั้นออกจากพอร์ต มี
2 กรณี
6.1 หุ้นนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวเลย
6.2 หุ้นที่มีราคาไหลลงมามากกว่า
50% จากราคาที่ซื้อมาสูงสุด ต้องเอาออกจากพอร์ต แล้วจดราคาเอาไว้เมื่อไร
หุ้นตัวนี้กลับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจนค่อยเข้าไปลงทุนใหม่ แต่ยกเว้นว่า
หุ้นตัวนั้นคืนทุนให้เรียบร้อยแล้ว ก็เก็บไว้สร้างกระแสเงินสดแฝงต่อไปเรื่อย ๆ
7. หุ้นเป็นเพียงหนึ่งในยานพาหนะสำหรับการลงทุน (Investment Vehicles)
ซึ่งนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ดังนั้นไม่ควรยึดติดที่ตัวหุ้นใด ๆ
และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวหุ้นได้ตามแผนการลงทุนที่วางเอาไว้
เพราะการยึดติดตัวหุ้นนั้นคือความทุกข์อย่างหนึ่ง
“จงปล่อยวางไม่อย่างนั้นท่านจะสูญเสียทุกอย่าง” แต่ให้ยึดแนวทาง DSM
แทนการยึดติดที่ตัวหุ้นแทน
เริ่มต้นด้วยจำนวนหุ้นเท่าใด
จำนวนหุ้นที่เหมาะสมสำหรับวิธี
DSM คือ 10,000 หุ้น ดังนั้นถ้าหุ้นที่คุณหมายตาไว้มีราคาหุ้นละ 100 บาท
คุณจะต้องมีเงินลงทุน 1 ล้านบาท
การเลือกหุ้นในระดับราคาที่เหมาะสมจะทำให้การซื้อขายหุ้นตามแผนการลงทุนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าคุณรักและอยากลงทุนในหุ้นราคา
100 บาทจริงๆ มี 2 วิธี
1. หาเงินล้านจากการทำงานมาลงทุน
2.
เริ่มจากหุ้นตัวละ 10 บาท ใช้เงินลงทุน 1 แสน ลงทุนด้วยวิธี DSM อย่างมีวินัย
ไม่เกิน 7 ปี คุณก็จะก้าวไปลงทุนในหุ้นระดับราคา 100 บาท ได้อย่างสง่าผ่าเผย
(อัตราเฉลี่ย3%ต่อเดือน)
Thursday, March 22, 2012
DSM Concept Version 3 : DSM (6) – การเลือกหุ้นเพื่อลงทุนวิธี DSM
Labels:
DenSri Method,
DSM,
DSM Concept,
DSM Concept Version 3,
กลยุทธ์การเล่นหุ้น,
จูล่ง,
เด่นศรี
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment