Wednesday, March 4, 2009

แนวทางการขายหุ้น

1. การซื้อหุ้นได้ถูกตัว (ได้จากผลการวิเคราะห์) รวมถึงซื้อได้ถูกจังหวะ จะช่วยให้ขายหุ้นได้ไม่ยาก
2. ระวังการขายหุ้น Big Lot เพราะนั่นไม่ได้สะท้อนภาพโดยรวมของตลาด
3. การที่หุ้นมีราคาสูงขึ้นจากฐานเดิมไปมากอย่างรวดเร็ว ก็ต้องระวัง เพราะนั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า จุขายนั้นอยู่ไม่ไกลออกไปนัก
4. ดัชนีหุ้นจะสูงอย่างต่อเนื่องขึ้นไปได้ ก็ต่อเมื่อมีมูลค่าการซื้อขายที่สูงคอยสนับสนุน
5. ขายออกไปก่อน หากหุ้นขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะ 8-12 วัน
6. ควรขายหากหุ้นขึ้นไปอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยขึ้นไปจากเดิม 25-30%
7. นักลงทุนรายใหญ่จะขายเมื่อมีแรงรับมารับหุ้นไว้ได้เท่านั้น
8. ราคาหุ้นที่สูงขึ้น โดยไม่มีมูลค่าการซื้อขายเข้ามารองรับ ย่อมหมายถึงการเกิดอุปสงค์เพียงชั่วคราว ควรรีบขาย
9. มูลค่าการซื้อขายสูง แต่ราคาหุ้นไม่ไปไหน จะมีสัญญาณว่าจะมีการกระจายตัวเล่นมากขึ้น
10. หุ้นที่ปิดต่ำ ควรต้องระวังและรีบขาย
11. เมื่อทุกคนรู้สึกว่า หุ้นสูงขึ้น ก็ให้รีบขาย เพราะคนส่วนใหญ่ความรู้สึกก็จะคล้ายๆ กัน เพราะหาไม่แล้วก็จะสายเกินไป ตามที่ แจ็ค เครฟัส กล่าวว่า “ขายเมื่อมีข่าวดีล้นตลาด และซื้อเมื่อรู้สึกว่ากลัวสุดขีด กลัวตาย และคนอื่นๆ ไม่มั่นใจ”
12. ถ้าหุ้นเปิดสูง แต่ปิดต่ำกว่าราคาเปิด แสดงสัญญาณใกล้จุดสูงสุดรอบนั้นแล้ว
13. ขายออกไปดีกว่า ถ้าราคาหุ้นไม่วิ่งเลยหลายวัน
14. พิจารณาขายหากหุ้นขึ้นไปหลายสัปดาห์ และเริ่มย้อนกลับที่เดิม
15. หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ขอแนะนำว่าขายออกไปดีกว่า
16. ขายเมื่อเห็นว่า ราคาหุ้นในกลุ่มที่เราเล่นอยู่เริ่มไปไม่ไหว
17. อย่าขายหุ้นตามข่าวร้าย ข่าวลือ เพราะนั่นเป็นเพียงกระแสชั่วคราว
18. พยายามขายหุ้นออกไปเมื่อราคาอยู่ต่ำกว่าแนวรับหลักของราคาช่วงนั้น
19. ถ้าขายหุ้นช่วงขาขึ้นไม่ทัน ก็ต้องรีบขายตอนขาลง หลังจากถึงจุดสูงสุดรอบนั้นแล้ว
20. หลังจากที่หุ้นขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแล้วลดลง 8% ในบางกรณีก็จำเป็นต้องดูประวัติการขึ้นลงของหุ้นแต่เดิมว่า มีรูปแบบอย่างไร และดูว่าการขึ้นของราคางวดนี้จะจบลงตรงจุดใด หรือเพียงแค่ปรับตัวในช่วงระหว่าง 8-12% และในบางครั้งคุณอาจต้องขายหุ้นออกไป เมื่อราคาลดต่ำลงกว่า 12-15%
21. หากหุ้นมีการขึ้นไปโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง แล้วหล่นลงมาทันทีเป็นสัญญาณเตือนการขาย
22. ถ้ามีการขายอย่างรุนแรงในขณะที่หุ้นขึ้นไปสูงเกือบสุด และถัดมาด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง และราคาเริ่มถอย ก็ขอให้รีบขายในวันที่ 2 หรือ 3 หลังจากที่ไม่สามารถดันต่อไปได้
23. ให้พิจารณาขาย หากราคาหุ้นปิดปลายสัปดาห์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว หรือต่ำกว่าราคาในแนวหนุน
24. จำนวนวันในช่วงขาขึ้นกับขาลง จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อหุ้นเริ่มลง
25. รอสัญญาณยืนยันการซื้อก่อน และอย่าซื้อหุ้นที่ขายออกไป เพียงเพราะว่าคุณซื้อมาได้ในราคาถูกกว่าเก่าเท่านั้น
26. ต้องเรียนรู้การซื้อขายที่ผิดพลาดของตัวคุณเองในอดีต วิเคราะห์ด้วยตนเอง โดยอาจเขียนลงในแผนผังการซื้อขายให้ชัดเจน
27. การขายต้องขายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่รอจนเกิดความชัดเจน และต้องขายเมื่อหลุดแนวหนุนที่เคยเป็น
28. ควรมีการคาดการณ์การทำกำไรในแต่ละสัปดาห์
29. ขายเมื่อหุ้นแตะแนวต้าน หรือขายเมื่อทะลุแนวต้านขึ้นไปแล้ว
30. ขายเมื่อหุ้นขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่
31. ขายเมื่อหุ้นขึ้นไปสูง โดยไม่มีฐานพอ
32. ขายหุ้นเมื่อฐานการขึ้นไปอย่างหละหลวม และต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
33. ในบางกรณีให้ขายหุ้น เมื่อราคาทะลุขึ้น โดยมูลค่าการซื้อขายในช่วงสัปดาห์มากกว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
34. หุ้นบางตัวให้ขายออกไปเมื่อราคาสูงขึ้น 70-100% สูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
35. ในช่วงหุ้นขาขึ้น หากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน เริ่มมีแนวโน้มลดลง นับว่าเป็นสัญญาณขาย
36. หากราคาสัมพัทธ์กับตลาด (RSI) ลดต่ำกว่า 70% เป็นเหตุผลที่ต้องขาย

No comments:

Post a Comment

SAA Consensus หุ้นที่มีการ update วันนี้

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์ ภาวะตลาด

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์ เทคนิค

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์ หุ้นรายตัว

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์ พิเศษ

SETTRADE.COM - บทวิเคราะห์ หุ้น IPO

กรุงเทพธุรกิจ - ธุรกิจ

กรุงเทพธุรกิจ - การเงิน - การลงทุน